วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กิฟฟารีนจัดหนักส่งท้ายปี


“กิฟฟารีน” เชื่อยอดขายไม่ต่ำไปกว่าเป้าหมายที่วาง หลังวิกฤติน้ำท่วม โดยในช่วงวิกฤติจัดการย้ายคลังสินค้าขนาดใหญ่ไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี พร้อมผนึกกำลังนักธุรกิจทั่วประเทศขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้า ในกลุ่มสินค้าจำเป็นในช่วงน้ำท่วม ส่งผลยอดขายเขตภูธรพุ่ง ส่งโปรโมชั่นใหม่จัดหนักก่อนสิ้นปี มั่นใจไม่นานโรงงานนวนครเดินเครื่องได้
พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการรับมือวิกฤติน้ำท่วมที่ผ่านมาว่า ได้มีการวางงานรับมืออย่างเต็มที่ โดยได้ย้ายคลังสินค้า ทั้งหมดไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับย้ายส่วนงานคลังและลอจิสติกส์ เข้าวางระบบการกระจายสินค้าไปยังศูนย์ ธุรกิจทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ นักธุรกิจกิฟฟารีนทุกคนมีขวัญและกำลังใจที่ดีมาก ด้วยแนวคิดที่ว่า “น้ำท่วมโรงงาน ได้ แต่ท่วมใจของพวกเราไม่ได้” พร้อมสู้วิกฤติน้ำท่วมอย่างเข้มแข็ง
พ.ญ. นลินี ไพบูลย์ :: น้ำท่วมโรงงาน ได้ แต่ท่วมใจของพวกเราไม่ได้

ทางบริษัทกิฟฟารีน ได้มีนโยบายจัดประชุมกลุ่มย่อยอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดอบรมกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อเอา ชนะวิกฤติน้ำท่วม ชูการขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้ากิฟฟารีนในกลุ่มสินค้าที่จำเป็น ได้แก่ เครื่องกรองน้ำ ข้าวสาร อาหารแห้ง ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์สำหรับร่างกาย การขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในช่วงวิกฤติน้ำท่วมที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มดังกล่าว มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะอัตราการเติบโตของยอดขายอย่างน่าสนใจ ในภาคเหนือถึง 25 เปอร์เซ็นต์และภาคใต้ 30 เปอร์เซ็นต์ในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับในส่วนของศูนย์ธุรกิจที่เป็นด่านหน้าของการกระจายสินค้า และให้บริการทางธุรกิจแก่นักธุรกิจนั้น ได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากกิฟฟารีนมีศูนย์ ธุรกิจกระจายอยู่ทั่วประเทศถึง 112 ศูนย์ และมีศูนย์ธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพียง 5 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน ปทุมธานี    ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน นวนคร  ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน อุทัยธานี  ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน บางใหญ่ และ  ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน ปิ่นเกล้า โดยศูนย์ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ได้ย้ายฐานการให้บริการไปยังจังหวัดใกล้เคียง โดยนักธุรกิจที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสามารถเข้าไปใช้บริการได้ตามปกติ สำหรับในส่วนของฐานการผลิต ที่โรงงานนวนคร จังหวัดปทุมธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในขณะนี้ก็เริ่มมีการฟื้นฟูโรงงานกิฟฟารีนได้แล้ว
นอกจากนี้ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อาจส่งผลทำให้การจัดประชุม หยุดชะงักไปบ้าง แต่ด้วยความที่กิฟฟารีนมีพื้นที่สาขา ครอบคลุมอยู่ทุกจุดทั่วประเทศ จึงทำให้บริษัทและสมาชิกเองสามารถปรับเปลี่ยน สถานที่ เปลี่ยนแผนดำเนินงานได้ทันท่วงที
จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลาย พื้นที่ โดยเฉพาะภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ ขณะนี้ นับเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับในส่วนของธุรกิจขายตรง แน่นอนทำให้เกิดการ ชะลอตัว แต่ด้วยความต้องการในเรื่องของรายได้ ในเรื่องของปัจจัยต่างๆ จะทำให้ นักธุรกิจขายตรงของแต่ละบริษัทต้องเพิ่ม ความขยัน ซึ่งสิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา
“โดยภาพรวมของธุรกิจขายตรงในปีนี้ อาจเกิดการชะลอตัวขึ้น โดยกิฟฟารีน เองก็เป็นหนึ่งในธุรกิจนั้น ซึ่งในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา บริษัทยังถือว่ามีการเติบโตที่ดีอยู่ ที่ 14% แต่ในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำที่ทะลักเข้ากรุงเทพฯ ทำให้การเติบโตได้รับผลกระทบ และศูนย์สาขา หลายศูนย์ก็ต้องปิดตัวชั่วคราว” พ.ญ.นลินี กล่าว
ทั้งนี้ พ.ญ.นลินี ยังได้มองถึงช่วงน้ำลดหลังจากนี้ว่า “หลังจากที่น้ำลดลง สถานการณ์ดีขึ้น สิ่งที่ตามมานั่นคือ นักธุรกิจอิสระจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่อง จากความต้องการมีรายได้เสริม เป็นเรื่อง ที่ประชาชนจะให้ความสำคัญมากขึ้น แต่ผู้บริโภคสินค้าอาจลดลง เนื่องจากประชาชน จะไม่มีอารมณ์ในการซื้อ และไม่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่อยู่นอกเหนือปัจจัย 4” หมอต้อย เผย
นอกจากนี้ คุณพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ได้เปิดเผยถึง การจัดโปรโมชั่นพิเศษเร่งยอดในช่วงวิกฤติน้ำท่วม และในช่วงของเทศกาล ปีใหม่ ในช่วง 1 เดือนสุดท้ายของปี ด้วยการจัดเต็มโปรโมชั่นพิเศษกับแคมเปญต่างๆ เพื่อลุ้นรับสิทธิประโยชน์มากมายที่เป็นประโยชน์ในการขยายงานของนักธุรกิจ กิฟฟารีนจนถึงสิ้นปี
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ ดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อธุรกิจนัก เพราะยอดขายของบริษัทก็ ยังไม่ได้ลดลง เพียงแต่ว่าสมาชิก อาจจะขยายงานลำบากขึ้น “ฉะนั้นโดยภาพรวม จึงส่งผลในรูปแบบเชิงพฤติกรรมของนักธุรกิจที่อาจจะได้รับความลำบาก ซึ่งตัวบริษัทเองเมื่อนักธุรกิจ ได้รับความลำบาก เราก็ต้องมีแผนในการ ตั้งรับที่ดี ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายพงศ์พสุ กล่าว
ทั้งนี้ กิฟฟารีนเอง ก็ได้ดำเนินแผนงานฉุกเฉิน เพื่อจัดให้สมาชิกได้รับความสะดวกในการทำธุรกิจมากขึ้น เช่น เลื่อนเวลาในการปิดยอด เพื่อให้สมาชิกกิฟฟารีนสบายใจ แต่อย่างไรก็ตาม แผนธุรกิจโดยรวมของกิฟฟารีน ตำแหน่งก็สามารถขึ้นได้เองอยู่แล้ว และขึ้นแล้วขึ้นเลย ไม่มีการลดลง เพราะฉะนั้นสมาชิกจึงสบายใจได้ว่า เวลาที่เขาทำธุรกิจ เขาก็จะไม่กดดันมาก และนอกจากนี้บริษัทอาจจะวางแผนพัฒนาใน ระบบเกี่ยวกับการให้บริการต่อไป

ที่มา สยามธุริจ  ฉบับที่ 1260 ประจำวันที่ 21-12-2011  ถึง 23-12-2011 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น